Pug Health

อาบน้ำปั๊ก

เวลาหมาเป็นผิวหนังอักเสบ ผิวหนังดำ ขนร่วง จะด้วยมีผดผื่นขึ้นจากเห็บหมัดกัด หรือเป็นขี้เรื้อน เชื้อรา ยีสต์ ให้อาบน้ำด้วยแชมพู Malaseb หรือยี่ห้ออื่นที่มี ตัวยาเดียวกันคือ Miconazole Nitrate 2% Chlorhexidine Gluconate 2% เคยใช่ยี่ห้อ Medclean ก็ใช้ได้ แต่ที่สำคัญกว่า คือ วิธีอาบน้ำที่ถูกต้องและบ่อยๆ แบบนี้
  1. เอากะละมังใส่ น้ำประมาณ 1 นิ้ว
  2. เอาน้ำเปียก โชลมให้ขนและหนังเปียกทั่วๆ น้ำจะสูงขึ้นมาอีก เป็น 2 นิ้ว
  3. หยดแชมพูยาลง บนผิวหนัง 1 หยด เริ่มจากหลังคอ เอามือถูไปทั่วๆ เป็นวงกลมทวนขน ให้แชมพูกระจายเป็นวงไปกว้างที่สุด หาจุดหยดถัดไป เช่นกลางหลังถูเป็นวงให้มาชนกันกับที่ทาครั้งแรก ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนทั่วตัว จุดที่หยดยาหลักๆ ทีละหยด คือ หลังคอ กลางหลัง บนหาง ก้น ด้านข้างขวา ด้านข้างซ้าย ขา 4 ขา ใต้   คอ อก ท้อง บริเวณหน้าหยดใส่มือค่อยๆทาอย่าให้เข้าตา จมูก หู

  1. ทิ้งแชมพูอย่างน้อย 10  นาที  ห้ามกะ ให้ใช้นาฬิกาตั้งจับเวลาไว้แทน
  2. เอาแช่ในกาละ มังที่มีน้ำสะอาดเต็ม  เปิดสายยางให้น้ำไหลผ่านล้างตัวให้ทั่วอย่างน้อย 10 นาที เพื่อไม่ให้ผิวแห้ง
  3. เอาขึ้นเช็ด ให้หมาดๆ เกือบแห้ง เป่าด้วยพัดลมเย็น     
มีผื่นคันมาก ทำวันเว้นวัน

หากดีขึ้นให้ อาบ 2 วัน 1 ครั้งในอาทิตย์ที่ 2

อาทิตย์ที่ 3 หากไม่มีตุ่มแดง หรือแผลลาม ในอาบ อาทิตย์ละ 2 ครั้ง

เมื่อหายเป็น ปกติ อาบอาทิตย์ละ 1 ครั้ง  ไปอีก 1 เดือน

หลังจากนั้น อาบเดือนละ 2 ครั้ง ตลอดไป 
หมาปั๊กมักจะมีปัญหาเรื่อง ผิวหนังดำ ขนร่วง บางตัวก็เป็นแค่นี้ บางตัวก็มีเชื้อรา ร่วม และบางตัวก็มีเชื้อยีสต์มาช่วยซ้ำ กระหน่ำให้เจ้าของเครียด ปั๊กเราทั้ง 2 ตัว มีปัญหาแบบนี้
ตัวแรกเป็นเพราะ food allergy ครั้งใดที่กินอาหารที่มันแพ้ เช่น ไก่ หมู เป็ด จะผิวดำทันที พร้อมขนร่วงตามมา มากน้อยก็ขึ้นอยู่ว่ากินแค่ไหน และแสดงอาการใน 7 วัน กว่าจะหายถ้าไม่ไปกินของแพ้อีกก็เกือบปี จะกลับมาเหมือนเดิม
อีกตัวเป็นเมื่อถูกหมัดกัด จะผิวดำขนร่วงเป็นวง คุมหัดไม่ให้มากัดได้เมื่อไหร่ 3 เดือนก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม ไม่ต้องทายาอะไรพิเศษ ถ้าไม่พบว่ามีเชื้อรามาร่วมด้วยช่วยกัน หรือมีเพื่อนแบบราหรือยีสต์ ก็ใช้แชมพู malaseb หรือตัวอื่นที่ถูกกว่าที่มีตัวยารักษาได้ อาบน้ำบ่อยๆ ก็ดีเองแตถ้าหาสาเหตุไม่เจอก็ต้องรักษาปลายเหตุไปเรื่อยๆ ไม่มีวันจบสิ้น


Allergy in dog

ระบบ ภูมิคุ้มกันที่ทำงานผิดปกติทำให้เกิดอาการแพ้ ซึ่งการแสดงอาการต่อต้านนี้เรียกว่า antigen แอนติเจน
คือสิ่งแปลกปลอม หรือ สารที่ไม่มีอยู่ในร่างกายเมื่อเข้าสู่ร่างกาย สามารถกระตุ้นให้เกิดการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันแบบจำเพาะได้โดยทำให้เกิดการส ร้าง แอนติบอดี ซึ่ง สามารถทำ ปฏิกิริยากับแอนติเจนนั้น ๆ ได้ ซึ่งเป็นสาเหตุของการแพ้ที่เรียกว่า Allergies กลุ่มหลักในการต่อต้านสิ่งที่มักแพ้ในสุนัขมี 3 หมวดใหญ่ๆ  คือ

Food Allergy คือ การต่อต้านสิ่งที่กิน เช่น อาหาร สารถนอมอาหาร

Atopy คือ ต่อต้านสิ่งที่ได้รับจากการสูดดม

Contact Allergy คือ การต่อต้านสิ่งที่สุนัขสัมผัส เช่น ไรฝุ่น เกสรดอกไม้ สบู่ รวมทั้งอาการแพ้ที่เกิดจากน้ำลายหมัด ที่เรียกเฉพาะว่า Flea Allergy

ยิ่งได้รับสารกระตุ้น มากเท่าใด อาการแพ้ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น สิ่งที่ทำให้เกิดการแพ้ส่วนใหญ่ เช่น เนื้อ นม  ข้าวสาลี ปลาเกสรดอกไม้ ไข่ ยีสต์ ไก่ หมู แกะ ข้าวโพด ถั่วเหลือง ข้าว และสารกันบูดในอาหารสำเร็จรูป

Flea Allergy Dermatitis


FAD เกิดได้กับสุนัขทุกตัวแม้มีการให้ยา ป้องกันและอยู่แต่ในบ้าน อาการแพ้มักจะทำให้ขนร่วง มีลักษณะขั้นบันไดเป็นชั้นๆ หรือหย่อมๆ มีตุ่มแดง แม้ไม่ได้เกา และมักเกิดบริเวณสันหลัง สะโพกหลัง หาง ซึ่งเป็นบริเวณที่ต่างไปจากการแพ้ชนิดอื่นๆ และมีอาการคันรุนแรง สุนัขมักกัดเท้า กัดหาง ไล่ขับไปด้านหลังลำตัว เนื่องจากเห็บหมัดมักจะกัดบริเวณที่สุนัขเกาไม่ถึง หากโดนกัดแล้วแพ้โปรตีนในน้ำลาย ร่างกายจะหลั่งสารออกมาต่อต้าน มีตุ่มแดง ขนร่วง มักจะเห็นรอยทางแดงๆ ไปตามที่หมัดเดิน หรือเห็นฝุ่นสีดำหรือน้ำตาลทิ้งไว้ที่ผิวหนัง หรือตามพื้น อาการร่วมอื่นๆ ที่อาจพบเช่น ผิวหนังแดง ร้อน อาการแพ้บางครั้งทำให้เกิดการติดเชื้อเพิ่มเช่น หูร้อนแดง มีผื่นแดงหนา ลามไปทั่ว อาจตืดเชื้อราละยีสต์ร่วมจากการเกาอย่างหนัก บางตัวพัฒนาเป็น hot spot และลามอย่างรวดเร็วไปทั่วตัวเป็นโรคที่พบได้บ่อย เนื่องจากสุนัขแพ้น้ำลายหมัดที่มากัด  เนื่องจากน้ำลายหมัดมีสารที่ไวต่อการกระตุ้นการแพ้ สุนัขที่มาพบแพทย์ 80% มีภาวะแพ้เริ่มต้นมาจากการ แพ้น้ำลายหมัดหรือ FAD มากที่สุด เพราะหมัด 10% เท่านั้นที่อาศัยอยู่บนตัวสัตว์ 90% อาศัยอยู่ในสิ่งแวดล้อมรอบตัว บางตัวสามารถกัดสุนัข ได้รับยาที่เราใช้ป้องกัน ไปวางไข่ แล้วอีกหลายชั่วโมงจึงตาย การควบคุมหมัดจึงเป็นเรื่องยากและต้องใช้เวลา การที่ไม่พบหมัดในสุนัขม่ได้แปลว่าสุนัขจะไม่โดนกัด การออกไปเดินเล่นโดนหมัดเข้ามาอาศัยเพียงตัวเดียวก็สามารถกัดสุนัขได้ 200 ครั้งต่อวัน  

การดูแลและควบคุมไม่ให้มี เห็บหมัดจึงสำคัญที่สุด จะดีขึ้นภายใน 3 อาทิตย์ หากไม่ถูกกัดอีก


เรื่อง มินิแพ้นำ้ลายหมัด
http://minithepug.blogspot.com/p/5.html

Food Allergy



ในสุนัจการแพ้อาหารประเภทต่างๆ สาเหตุหลักมาจากการแพ้สารถนอมอาหารที่ใช้ในอาหารที่ทำสำเร็จรูปแบบเก็บได้นาน และบางทีก็แพ้โปรตีนที่เป็นอาหารที่กินเข้าไป อาหารสดบางอยางที่พบบ่อย เช่น เนื้อวัว เนื้อไก่ เนื้อหมู มีบ้างที่แพ้นมวัว ยีสต์ ข้าวโพด  ไก่งวง ไข่ไก่ ปลา  บางทีก็แพ้ขนมขบคี้ยวต่างๆ เจ้าของมักคิดว่าสุนัขแพ้อาหารเมื่อสุนัขคัน มีตุ่ม แต่การแพ้อาหารนั้นพบไม่มากนัก ส่วนมากมักแพ้สารถนอมอาหารมากกว่า และสุนัขที่แพ้อาหาร มีจำนวนน้อยมากประมาณ 10% เท่านั้น ถ้าเทียบกับการแพ้อื่นๆ โดยเฉพาะส่วนมากที่พบจะมาจาก Flea Allergy เป็นส่วนใหญ่ถึง 80และสุนัขที่พบว่ามีอาการแพ้อาหารส่วนมากจะมีอาการร่วมคือเป็นภูมิแพ้ผิวหนังอักเสบ (Atopy) ร่วมด้วย

เรื่องบู้บี้แพ้อาหาร
http://minithepug.blogspot.com/2010/04/blog-post.html


Atopy โรคภูมิแพ้ที่เกี่ยวกับการสูดดมสิ่งแพ้เข้าไป

เป็นภาวะภูมิแพ้ทางพันธุกรรมที่สุนัขแพ้สิ่งต่างๆที่ลอยมากับหรือและปนมากับอากาศ อาทิ ไรฝุ่น สปอร์รา เกสรดอกไม้ อากาศที่ร้อนไปหรือเย็นไป แม้แต่โปรตีนจากสะเก็ดผิวหนังหรือเศษขี้ไคลของคน ขึ้นอยู่กับภาวะความเป็นอยู่ประจำที่เช่นอยู่ในที่แห้งในบ้านไม่มีฝุ่น ก็ปกติดี แต่พอไปที่ร้อน ชื้น มีฝุ่น ดินและเกสรดอกไม้ ปุ๋ย ยาฆ่าแมลง น้ำยาทำความสะอาดต่างๆ มาเกี่ยวข้องก็เกิดอากาศแพ้ บางทีก็เป็นแบบบางช่วงในระหว่างปีทุกปีที่สัมผัสสิ่งแวดล้อมที่แพ้ บางทีก็เป็นต่อเนื่องตลอดปีถึงแม้ไม่มีสิ่งแวดล้อมที่แพ้รอบตัวแล้ว  ซึ่งต่างจาการแพ้อาหารที่จะพบว่าหยุดอาหารที่แพ้แล้วอาการก็จะหายไป มีเพียง 10% ของสุนัขเท่านั้นที่จะพบว่าเป็นโรคผิวหนังภูมิแพ้ ( Atopic Dermatitis) และมักจะพบว่ามีอาการรุนแรงมากขึ้นทุกปี หรือทุกครั้งที่กำเริบ ไม่ควรให้สุนัขที่เป็นภูมิแพ้แบบนี้ผสมพันธ์เพราะจะสืบต่อทางพันธุกรรมได้
อาการ
หากสุนัขหายใจ หรืสัมผัสสิ่งที่แพ้เข้าไป จะคันแต่จะไม่มากเท่าแพ้น้ำลายหมัด  มักจะกัด เลียหรือแทะร่างกาย เท้า เอาหน้า ตัวถูกับสิ่งต่างๆ มักมีอาการอักเสบที่หูร่วม บางทีตาแฉะเพราะติดเชื่อแบคทีเรีย ส่วนที่เป็นผื่นมักเริ่มต้นเกิดจากบริเวณหน้า เท้า ซอกแขน หน้าอกช่วงคอ หากเป็นมากอาจลามไปทั่วตัวได้ บางตัวเลียผิวมากจนเป็นผื่นแดง บางตัวผิวอักเสบจนเป็นสีน้ำตาลดำ อาการแพ้อากาศโดยมากมักจะเริ่มเกิดเมื่อสุนัขอายุระหว่าง 1-3 ปี  แต่จะไม่เกิดกับสุนัขที่อายุ 6 ปีแล้ว เพราะสุนัขจะแสดงอาการแพ้ต่อสิ่งต่างๆได้เมื่อไปกระทบกับมันอย่างน้อยระยะหนึ่งเพื่อพัฒนาการต่อต้าน เช่นมักจะแพ้เกสรดอกไม้ในปีที่สองที่ได้รับไม่ใช่ปีแรกหรือครั้งแรก เพราะร่างกายใช้เวลาในการสร้างภูมิ และจะแย่ลงเรื่องๆ เมื่อเจอสิ่งกระตุ้นการแพ้